คลอโรฟิลล์ (อังกฤษ: Chlorophyll) เป็นสารประกอบที่พบได้ในส่วนที่มีสีเขียวของพืช โดยพบมากที่ใบ นอกจากนี้ยังพบได้ที่ลำต้น ดอก ผลและรากที่มีสีเขียว และยังพบได้ในสาหร่ายทุกชนิด นอกจากนี้ยังพบได้ในแบคทีเรียบางชนิด คลอโรฟิลล์ทำหน้าที่เป็นโมเลกุลรับพลังงานจากแสง และนำพลังงานดังกล่าวไปใช้ในการสร้างพลังงานเคมีโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง เพื่อสร้างสารอินทรีย์ เช่น น้ำตาล และนำไปใช้เพื่อการดำรงชีวิต คลอโรฟิลล์ อยู่ในโครงสร้างที่เรียกว่า เยื่อหุ้มไทลาคอยล์ (Thylakoid membrane) ซึ่งเป็นเยื่อหุ้มที่อยู่ภายในคลอโรพลาสต์ (Chloroplast)
คลอโรฟิลล์ คือ สารประกอบที่ทำให้พืชมีสีเขียวและทำหน้าที่หลัก คือ สังเคราะห์แสง โดยการเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ ก็าซคาร์บอนไดออกไซด์และแร่ธาตุต่างๆ จากดินให้กลายเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช รวมทั้งให้ก๊าซออกซิเจนที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์
คลอโรฟิลล์ธรรมชาติมีหลายชนิด บางชนิดสังเคราะห์แสงได้ในที่มีแสงแดดเท่านั้น แต่บางชนิดสังเคราะห์แสงได้แม้ในที่ไม่มีแสง เช่น ในร่างกายของคน จึงมีการค้นคว้าเกี่ยวกับการทำงานหรือปฏิกริยาของคลอโรฟิลล์ต่อคน พบว่าคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในเซลล์ของพืชทั่วไปจะถูกปกป้องและปิดกั้นด้วยผนัง หรือเยื่อหุ้มเซลล์อีกชั้นหนึ่ง ทำให้ระบบการย่อยอาหารปกติของร่างกายเราไม่สามารถบดย่อย เพื่อให้ได้สารคลอโรฟิลล์เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเราได้ ถึงแม้ว่าจะบริโภคผักใบเขียวเป็นจำนวนมากในแต่ละวันก็ตาม อีกทั้งคลอโรฟิลล์โดยตัวของมันเองละลายน้ำไม่ได้ จะละลายได้ในไขมันหรือในแอลกอฮอลล์บางชนิดเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราสามารถสกัดเอาเฉพาะสารคลอโรฟิลล์ออกมาได้อย่างสมบรูณ์และบริสุทธิ์ โดยปราศจากการสูญเสียคุณค่าทางอาหารตามธรรมชาติ ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีอย่างเต็มที่ และเป็นคลอโรฟิลล์ชนิดละลายน้ำได้ จึงดูดซึมได้ทันทีในกระเพาะอาหาร ในกรณีที่ร่างกายใช้ไม่หมด จะถูกขับทิ้งไปทางระบบขับถ่ายไม่สะสมไว้ในร่างกาย ผิดกับคลอโรฟิลล์ชนิดที่ละลายในไขมัน จะไม่ถูกดูดซึมที่กระเพาะอาหารแต่จะย่อยและดูดซึมได้ในลำไส้เล็ก คลอโรฟิลล์ชนิดนี้เมื่อร่างกายใช้ไม่หมดจะถูกส่งไปสะสมไว้ที่ตับในระยะเวลา หนึ่ง ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายต่อตับได้ ดังนั้นองค์การอาหารและยาสหรัฐจึงให้การรับรอง เฉพราะคลอโรฟิลล์ที่ละลายน้ำได้เท่านั้น ว่าปลอดภัยต่อการบริโภคของคน
ด้วยสูตรโครงสร้างของโมเลกุลที่ใกล้เคียงกับโมเลกุลของเม็ดเลือด แดงต่างกันเฉพาะตรงกลางที่คลอโรฟิลล์มีแมกนีเซียม (Mg) และเม็ดเลือดแดงมีเหล็ก จึงทำให้สีต่างกัน คือคลอโรฟิลล์มีสีเขียวแต่เม็ดเลือดแดงมีสีแดง จากจุดนี้เองที่ทำให้คลอโรฟิลล์ถูกเรียกว่าเลือดของพืช คลอโรฟิลล์ คือ สารประกอบที่ทำให้พืชมีสีเขียวและทำหน้าที่หลัก คือ สังเคราะห์แสง โดยการเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ ก็าซคาร์บอนไดออกไซด์และแร่ธาตุต่างๆ จากดินให้กลายเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช รวมทั้งให้ก๊าซออกซิเจนที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์
คลอโรฟิลล์ธรรมชาติมีหลายชนิด บางชนิดสังเคราะห์แสงได้ในที่มีแสงแดดเท่านั้น แต่บางชนิดสังเคราะห์แสงได้แม้ในที่ไม่มีแสง เช่น ในร่างกายของคน จึงมีการค้นคว้าเกี่ยวกับการทำงานหรือปฏิกริยาของคลอโรฟิลล์ต่อคน พบว่าคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในเซลล์ของพืชทั่วไปจะถูกปกป้องและปิดกั้นด้วยผนัง หรือเยื่อหุ้มเซลล์อีกชั้นหนึ่ง ทำให้ระบบการย่อยอาหารปกติของร่างกายเราไม่สามารถบดย่อย เพื่อให้ได้สารคลอโรฟิลล์เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเราได้ ถึงแม้ว่าจะบริโภคผักใบเขียวเป็นจำนวนมากในแต่ละวันก็ตาม อีกทั้งคลอโรฟิลล์โดยตัวของมันเองละลายน้ำไม่ได้ จะละลายได้ในไขมันหรือในแอลกอฮอลล์บางชนิดเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราสามารถสกัดเอาเฉพาะสารคลอโรฟิลล์ออกมาได้อย่างสมบรูณ์และบริสุทธิ์ โดยปราศจากการสูญเสียคุณค่าทางอาหารตามธรรมชาติ ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีอย่างเต็มที่ และเป็นคลอโรฟิลล์ชนิดละลายน้ำได้ จึงดูดซึมได้ทันทีในกระเพาะอาหาร ในกรณีที่ร่างกายใช้ไม่หมด จะถูกขับทิ้งไปทางระบบขับถ่ายไม่สะสมไว้ในร่างกาย ผิดกับคลอโรฟิลล์ชนิดที่ละลายในไขมัน จะไม่ถูกดูดซึมที่กระเพาะอาหารแต่จะย่อยและดูดซึมได้ในลำไส้เล็ก คลอโรฟิลล์ชนิดนี้เมื่อร่างกายใช้ไม่หมดจะถูกส่งไปสะสมไว้ที่ตับในระยะเวลา หนึ่ง ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายต่อตับได้ ดังนั้นองค์การอาหารและยาสหรัฐจึงให้การรับรอง เฉพราะคลอโรฟิลล์ที่ละลายน้ำได้เท่านั้น ว่าปลอดภัยต่อการบริโภคของคน
ผลการวิจัยทาง วิทยาศาสตร์การแพทย์มากมาย สรุปตรงกันออกมาว่า คลอโรฟิลล์สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงได้จนผู้ทำวิจัยได้รับรางวัล โนเบลไปแล้วถึง 2 ท่านด้วยกันคือ ดร.ริชาร์ด วินสเตตเตอร์(Dr.Richard Winstater) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออสเตรีย ในปี คศ.1915 และ ดร.ฮันส์ ฟิชเชอร์(Dr.Hans Fisher M.D.) นายแพทย์ชาวเยอรมันในปีคศ.1930 ผู้ซึ่งค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างเม็ดเลือดแดงและคลอโรฟิลล์
คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ 100 % เป็นสารอาหารที่มีคุณค่าใช้เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ เพื่อให้ระบบเลือดสะอาดบริสุทธิ์มีประสิทธิภาพ ช่วยต่อต้านสารพิษที่มีมากขึ้นในอาหารยุคปัจจุบัน คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ จะทำงานโดยส่งเสริมการทำงานในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องของการทำงานในร่างกาย ก็จะเข้าไปปรับสมดุลการทำงานให้สอดคล้องกัน โดยไม่ได้เข้าไปสร้างระบบใหม่ แต่จะเข้าไปปรับสมดุลของระบบเก่าซึ่งมีอยู่แล้วในร่างกายให้ทำงานอย่างถูกต้องมากขึ้น และระบบที่มีอยู่แล้วในร่างกายหากแข็งแรงสมบูรณ์ดีได้รับสารอาหารครบถ้วน ก็สามารถทำงานได้ด้วยตนเองได้ดียิ่งขึ้น ในทางการแพทย์เรียกว่า ระบบโฮมีออสตาซิส (Homeostasis) ดังนั้น คลอโรฟิลล์ จากอัลฟัลฟาจึงไม่ได้ไปเพิ่มหรือลดความจำเป็นของร่างกายให้ผิดไปจากสมดุลที่เหมาะสม จึงไม่ทำให้ปรากฏอาการข้างเคียง (Side Effect) หรืออาการพิษ (Toxicity) เหมือนกับยาปฎิชีวนะ จึงทำให้ผู้ใช้ คลอโรฟิลล์ มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยด้วยโรคที่เกิดจากการเสื่อมของร่างกาย
คลอโรฟิลล์ จาก "อัลฟัลฟ่า"
การสกัดและวิเคราะห์ "คลอโรฟิลล์" จากพืชกว่า 6,000 ชนิด พบว่าพืชที่ให้ "คลอโรฟิลล์" ที่บริสุทธิ์และดีที่สุดคือ "อัลฟัลฟ่า" (ALFALFA) ซึ่งจัดเป็นพืชจำนวนที่มีฝัก (LEGUMES) ตระกูลถั่ว และมีระบบรากที่มหัศจรรย์มาก ในบางพื้นที่รากของอัลฟัลฟ่าสามารถซอนไซลงไปลึกกว่า 130 ฟุต จึงมีประสิทธิภาพในการดูดซึมอาหารได้มากกว่าและบริสุทธิ์กว่าอีกทั้งตัวของมันเองจะไม่สะสมสารพิษ ชาวอาหรับโบราณรู้จักใช้ประโยชน์จาก "อัลฟัลฟ่า"มากกว่า 2,000 ปี ก่อนคริสตกาล โดยใช้เป็นพืชเลี้ยงสัตว์ และใช้ใบมาตากแห้งชงเป็นชาดื่ม จึงขนานนามให้เป็น AL- FAS-FAH-SHA หรือ "ราชาแห่งอาหารทั้งมวล" ประโยชน์ของ "อัลฟัลฟ่า" สามารถใช้บำบัดอาการปวดบวมและอักเสบต่าง ๆ เช่น ปวดข้อ จนกระทั่งถึงความผิดปกติ ในระบบทางเดินอาหารและเซลล์ตับถูกทำลาย นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า "อัลฟาฟ่า" สามารถช่วยทำให้เลือดสะอาดขึ้น
อัลฟาฟ่า เป็นพืชที่ให้กรดอะมีโนที่จำเป็นครบทั้ง 8 ชนิด ซึ่งได้แก่ กรดอะมิโนไอโซลิวซีน ,ลิวซีน,ไลซีน,เมไธโอนีน,ฟินิลอะลานีน,เทรโอนีน,ทริปโตฟานและวาลีน กรดอะมิโนเหล่านี้ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างเซลล์ใหม่ในอัลฟัลฟ่า ยังมีวิตามิน เอ,บี 6,บี12,ดี,อี และ เค รวมทั้งเกลือแร่ เช่น ฟอสฟอรัส, โปรตัสเซียม, แคลเซี่ยม,สังกะสี,เซเลเนียม และ แมกนีเซียม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์หลักอีก 8 ชนิด คือ ไลเปส,อาเมเลส,โคกูเลส,อีมูลซิน,อินเวอร์เตส,อินเวอร์เตส,เปอร์อ๊อกซิเดส,เพคติเนส,โปรตีส,มนุษย์เราต้องการเอนไซม์มากกว่า 3,000 ชนิด แต่ร่างกายสร้างได้เองเพียงไม่กี่ชนิด นอกนั้นต้องบริโภคจากอาหารสดประจำวัน ประเภทพืชผักและผลไม้ต่าง ๆ แต่ถ้าหากอาหารเหล่านี้ผ่านความร้อนเกินกว่า 55 องศาเซลเซียสขึ้นไป เอนไซม์ต่าง ๆ จะเสื่อมหรือเปลี่ยนรูปไปและร่างกายจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ร่างกายต้องการเอนไซม์เพื่อช่วยปรับระดับความสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันต่าง ๆ และจากวิธีการรับประทานอาหารในปัจจุบันนี้ เราได้รับเอนไซม์เข้าไปในร่างกายน้อยมาก ในอัลฟาฟ่ายังมีซาโปนิน ซึ่งเป็นสารที่มีผลในการลดในการอุดตันของเส้นเลือดและช่วยยับยั้งคลอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL)ในเลือดลงได้ จึงช่วยลดความดันโลหิตลง ไอโซฟลาโวน,ฟลาโวลและสเตอโรล ในอัลฟาฟ่ายังช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน และปรับระดับฮอร์โมนดังกล่าวในผู้หญิง ทั้งก่อนมีรอบเดือน (PMS) และอยู่ในวัยที่ใกล้จะหมดรอบเดือน (MENOPAUSE) และส่งผลดีต่อร่างกายส่วนอื่นๆด้วยเช่นกัน
ทำไมต้อง หัวเชื้อคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ เข้มข้น 100% เต็ม
1.ได้คุณภาพจากหัวเชื้อคลอโรฟิลล์ที่บริสุทธิ์เข้มข้นสูงถึง 100% เต็ม
2.ด้วยความบริสุทธิ์เข้มข้นถึง 100% จึงสามารถใช้ในการทาแผลได้ (มาตรฐานที่ทางการแพทย์สหรัฐอเมริกายอมรับ ต้องมีความบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่า 95%) ; อ้างอิง : หนังสือ คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ อาหารอายุวัฒนะ โดย ดร.สังสิทธิ์ ศรีสุคนธ์
3.เห็นผลไวกว่าคลอโรฟิลล์ชนิดอื่น เนื่องจากเป็นหัวเชื้อมีความเข้มข้นถึง 100% เต็ม แตกต่างจากชนิดอื่นๆซึ่งมีความเข้มข้นเพียง 1% กว่าๆเท่านั้น
4.เป็นหัวเชื้อคลอโรฟิลล์ที่ไม่มีสารตกค้างใดๆ เนื่องจากไม่มีสารประกอบอื่นๆ เจือปน
5.ผสมหัวเชื้อคลอโรฟิลล์ทิ้งไว้ได้นานไม่ตกตะกอน ไม่บูด ไม่เสีย ไม่มีกลิ่นคาว
6.เป็นหัวเชื้อคลอโรฟิลล์ชนิดละลายในน้ำ (Water Soluble) ตามที่องค์การ อย.สหรัฐรับรองว่าปลอดภัย ไม่มีสารตกค้างที่ตับ ไม่ใช่คลอโรฟิลล์ชนิดที่ละลายในน้ำมัน (Oil Soluble) ซึ่งจะมีไขมันสะสมที่ตับ
7.เป็นหัวเชื้อคลอโรฟิลล์ที่ผ่านกระบวนการกลั่นกรองด้วยกระบวนการฟรีซดราย (Freeze Dried) ถึง 15 ขั้นตอน จึงมั่นใจได้ว่า สะอาด ปลอดภัย และได้สารคลอโรฟิลล์เต็มร้อยแน่นอน
หัวเชื้อคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ 100% เต็ม ช่วยคุณได้อย่างไร
จากประสบการณ์ของผู้ใช้ ผู้บริโภคทั่วโลก ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจของ "คลอโรฟิลล์" ดังนี้
1.คลอโรฟิลล์ช่วยทำให้สดชื่น หายเหนื่อยจากการอ่อนเพลีย
2.คลอโรฟิลล์ช่วยลดความดันโลหิต ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ หัวใจโต
3.คลอโรฟิลล์ช่วยปรับระดับน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
4.คลอโรฟิลล์ช่วยทำให้อาการของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ ผื่นลมพิษ ทุเลาลง
5.คลอโรฟิลล์ช่วยขับกรดจากข้อต่อต่างๆ ทำให้อาการปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัวทุเลาลง และดีขึ้น
6.คลอโรฟิลล์ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย สารตกค้างของยาปฏิชีวนะ สารเคมีในอาหาร ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานดี สุขภาพแข็งแรง สดชื่น
7.คลอโรฟิลล์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเซลล์เม็ดเลือดแดงทำให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น
8.คลอโรฟิลล์ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
9.คลอโรฟิลล์ช่วยแก้ปัญหาท้องผูก การขับถ่ายจะดีขึ้น ริดสีดวงทวารทุเลาและหายได้
10.คลอโรฟิลล์ช่วยดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก กลิ่นเท้า กลิ่นภายใน
11.คลอโรฟิลล์ช่วยบรรเทาอาการชา บวมและเส้นเลือดขอดให้ทุเลาและดีขึ้นได้
12.คลอโรฟิลล์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
13.คลอโรฟิลล์ใช้ทาแผลอักเสบ,แผลเปื่อย,แผลเรื้อรัง,แผลถลอก,แผลไฟไหม้,เหงือกอักเสบ,แผลในปาก ซึ่งเห็นผลได้ดีชัดเจน14.คลอโรฟิลล์ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะทั่วไป และปวดศีรษะไมแกรนได้
15.คลอโรฟิลล์ช่วยเรื่องโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบให้ทุเลาและดีขึ้นได้
16.คลอโรฟิลลฺ์ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสิว,ฝ้า,ปวดประจำเดือน,ประจำเดือนมาไม่ปกติ
17.คลอโรฟิลล์ช่วยให้ผู้ที่เป็นต้อกระจกมองเห็นดีขึ้น และต้อเนื้อทุเลาลงได้
18.คลอโรฟิลล์ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ทำให้อวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัดของเสียทำงานได้ดีขึ้น
*ข้อมูลข้างต้น เรียบเรียงจากหนังสือและข้อเขียนของ ดร.ฮาวเวิร์ด ไปเปอร์ (Dr.Howard Peiper)
อย่าเสี่ยง อย่าชื้อ ถ้าคลอโรฟิลด์ที่ท่านดื่มไม่ใช่คลอโรฟิลด์บริสุทธิ์100% ให้ทดสอบและสังเกตุง่ายๆดังนี้
1. คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ 100 % (Water Soluble Chlorophyll) ให้ท่านสังเกตเมื่อผสมเข้ากับน้ำ ไม่ต้องเขย่าขวดหรือภาชนะที่ใส่ คลอโร ฟิลล์บริสุทธิ์ จะละลายเข้ากับน้ำจนเต็มภาชนะ
2. เมื่อตั้งทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานต้องไม่บูด และไม่มีสารประกอบใดๆตกตะกอนที่ก้นแก้วหรือภาชนะที่ใส่ ไม่ว่าจะตั้งไว้เป็นเดือนหรือหลายๆ เดือนก็ตาม เนื่องจากคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ 100 % ไม่มีส่วนผสมของสารประกอบอื่นๆ จึงไม่จำเป็นต้องดื่มให้หมดภายใน 1 วัน หรือ ภายใน 8 ชั่วโมง ท่านจะเก็บไว้นานเท่าใดก็ได้ ตามที่ท่านต้องการและพร้อมดื่ม
3. คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์เมื่อ นำเอาไอโอดีนมาหยดต้องไม่เปลี่ยนเป็นสีม่วง เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของแป้ง หรือสารประกอบอื่นๆ ต้องไม่มีส่วนผสมอื่นใด ความบริสุทธิ์สูงสุด 100 %
โปรโมชั่น!!! พิเศษสุดๆ เฉพาะเดือนนี้เท่านั้น (HotLine โทร 083-0340025 )
คลอโรฟิลล์ขวดกลาง คลอโรฟิลล์ขวดใหญ่
Hot! Pro1: สมาชิกรับส่วนลดพิเศษ 10-20% ดังนี้
*ขวดเล็กและขวดกลาง สินค้าหมดชั่วคราว
Hot! Pro2: แพ็คคู่ถูกกว่า
คลอโรฟิลล์ (ขวดกลางแพ็คคู่) ปกติ 3,000 บาท ลดเหลือเพียง 2,700 บาท เท่านั้น (พิเศษจำนวนจำกัด)
Hot! Pro3: ลด แลก แจกเงิน 1,000 บาท
สั่งซื้อคลอโรฟิลล์ (ขวดใหญ่) ครบ 6 ขวด จากราคาปกติ 18,000 บาท ลดเหลือเพียง 15,000 บาท พร้อมรับเงินสดคืน 1,000 บาท
*หมดเขตภายในเดือนนี้เท่านั้น
หลังจากที่ท่านอ่านข้อมูลหลักๆ ของคลอโรฟิลด์แล้ว ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจชื้อคลอโรฟิลด์ไปทานหรือเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์คลอโรฟิลด์ ท่านต้องศึกษาข้อมูลที่สำคัญเหล่านี้
คลอโรฟิลด์คืออะไร คลอโรฟิลด์บริสุทธิ์100%
คลอโรฟิลด์จากต้นอัลฟาฟ่า โครงสร้างของคลอโรฟิลด์
ชนิดของคลอโรฟิลด์ ประโยชน์จากคลอโรฟิลด์
วิธีสังเกตุคลอโรฟิลด์บริสุทธิ์ของแท้ ตารางเปรียบเทียบคลอโรฟิลด์บริสุทธิ์แท้กับทั่วๆไป
เปรียบเทียบลักษณะของเม็ดเลือดที่ดีและเสีย ข้อเปรียบเทียบฤทธิ์ของยาและคลอโรฟิลด์
ประสบการณ์จริงผู้ดื่มคลอโรฟิลด์ คลอโรฟิลด์ที่ทางการแพทย์ยอมรับ
ใบรับรองและผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ รายการและราคาผลิตภัณฑ์
วิธีสั่งซื้อและจัดส่ง วิธีรับประทานคลอโรฟิลด์ที่ถูกต้อง
ติดต่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) และการสมัครตัวแทนจำหน่าย
คุณหนึ่ง โทร: 083-0340025 , LineID: Chet111
อีเมล์: AlfalfaThai@hotmail.com
http://Alfalfa.igetweb.com
http://fb.com/AlfalfaThaiQuality
Blog ข้อมูลคลอโรฟิลล์ที่คนส่วนใหญ่ยังอาจไม่รู้ Secret of Chlorophyll
http://alfalfathai.blogspot.com/
www.AlfalfaThai.com